น้ำมัน สหรัฐอเมริกาเคยได้กลิ่นน้ำมันในตะวันออกกลางและตามหา และใช้น้ำมันดิบในท้องถิ่นเพื่อการสำรองอย่างรวดเร็ว แทบทุกประเทศให้ความสำคัญกับการสำรองน้ำมันอย่างจริงจัง สหรัฐอเมริกามีน้ำมันสำรองประมาณ 91 ล้านตัน และญี่ปุ่นมี 80 ล้านตัน ประเทศของเรามีน้ำมันเท่าไร ก่อนจะเข้าใจสถานการณ์น้ำมันสำรองของจีน มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมต้องสำรองน้ำมัน
ทำไมต้องสำรองน้ำมัน ปริมาณสำรองปิโตรเลียม หมายถึง ปริมาณสำรองปิโตรเลียม ประเทศใดที่มีการสะสมเงินทุนในประเทศและภูมิภาคของตน จุดประสงค์คือเพื่อจัดการกับความผันผวนของราคาน้ำมันในระยะสั้นและทำให้เศรษฐกิจดำเนินไปอย่างราบรื่น ระบบน้ำมันของโลกพึ่งพาตลาดโลกาภิวัตน์ และน้ำมันเชื่อมโยงกับระบบเงินดอลลาร์สหรัฐ
พูดง่ายๆก็คือประเทศใดก็ตามที่ต้องการซื้อน้ำมันต้องใช้เงินดอลลาร์ เพื่อทำธุรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์ สิ่งนี้จะช่วยปรับปรุงสถานะระหว่างประเทศของเงินดอลลาร์สหรัฐ และกลายเป็นสกุลเงินที่ยอมรับในระดับสากลอย่างไม่ต้องสงสัย ประเทศต่างๆต้องสำรองเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อซื้อน้ำมัน ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันย่อมส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์ และความผันผวนทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ
ตัวอย่างเช่น หากราคาน้ำมันระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์จะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อในระดับหนึ่ง นั่นคือเงินดอลลาร์จะไม่มีค่าเหมือนเมื่อก่อน ต้นทุนการซื้อ น้ำมัน ของประเทศต่างๆก็จะสูงขึ้นด้วย และต้นทุนที่สูงขึ้นในการผลิตภาคอุตสาหกรรมและด้านอื่นๆ ภายใต้สมมติฐานนี้ หากราคาตลาดไม่สามารถรักษาต้นทุนการผลิตได้ ผู้ผลิตจะลดโอกาสหรือขยายการผลิต นำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
ปัญหาพื้นฐานที่สุดของวิกฤตเศรษฐกิจ คือความไม่เป็นระเบียบของการควบคุมตลาด ซึ่งสามารถแก้ไขได้ผ่านการควบคุมมหภาคของรัฐเท่านั้น ระบบปิโตรเลียมที่ใช้เงินดอลลาร์เป็นศูนย์กลางคืออุดมการณ์ของระบบทุนนิยม ดังนั้นความผันผวนของราคาน้ำมัน จึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และผู้คนสามารถลดผลกระทบได้ด้วยการกักตุนน้ำมันเท่านั้น
วิกฤตการณ์น้ำมันในโลกมี 3 ครั้ง ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงกลางและปลายศตวรรษที่ 20 เศรษฐกิจพังทลายลงทีละชั้นเหมือนโดมิโน ในฐานะที่เป็นแหล่งน้ำมันหลักของโลก อาจกล่าวได้ว่าตะวันออกกลางเป็นเส้นเลือดใหญ่ของน้ำมันโลก ในปี 1973 สงครามตะวันออกกลางครั้งที่สี่ได้ปะทุขึ้น เมื่อระบอบการปกครองท้องถิ่นเปลี่ยนระบอบการปกครองใหม่ ก็เพิ่มราคาน้ำมันเป็น 2 เท่า เพื่อให้ได้เงินดอลลาร์มากขึ้น
การเติบโตอย่างรวดเร็วส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะปั่นป่วน โดยสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในขณะนั้น สูญเสียการผลิตในภาคอุตสาหกรรมถึง 14 เปอร์เซ็นต์ และ 20 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ นี่เป็นวิกฤตเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ 3 ปีหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ในช่วงเวลานี้หลายคนตกงานและเศรษฐกิจตกต่ำทำให้หลายคนไม่มีอาหาร ตั้งแต่นั้นมาประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศได้ร่วมกันจัดตั้งองค์กรด้านพลังงานทางเลือก สามารถใช้เพื่อรักษาเสถียรภาพของอุปทานการผลิตภาคอุตสาหกรรมในประเทศชั่วคราวเมื่อราคาน้ำมันระหว่างประเทศสูงขึ้น
องค์กรนี้มีชื่อว่า ก่อตั้งโดยองค์การพลังงานระหว่างประเทศ ความตั้งใจเดิมคือการรักษาการพัฒนาพลังงานระหว่างประเทศตามปกติ และมีเสถียรภาพ ในปี พ.ศ. 2521 ระบอบการปกครองของอิหร่านเปลี่ยนไปและสงครามอิหร่าน อิรักเกิดขึ้น ไม่สามารถสกัดน้ำมันในท้องถิ่นได้ ซึ่งทำให้การผลิตน้ำมันระหว่างประเทศลดลงอย่างรวดเร็ว
ครั้งนี้หลังจากวิกฤตการณ์น้ำมันในครั้งก่อน ทุกประเทศมีน้ำมันสำรองมากหรือน้อย แต่ก็ยังไม่สามารถทนต่อการลดการผลิตในระยะยาวได้ เนื่องจากปริมาณที่ต่ำ ราคาน้ำมันระหว่างประเทศจึงพุ่งสูงขึ้นเกือบสามเท่าอีกครั้ง วิกฤตพลังงานครั้งนี้ทำให้เศรษฐกิจตะวันตกถดถอยโดยตรง เศรษฐกิจตะวันตกอยู่ในภาวะถดถอย อดีตเจ้าเหนือหัวอังกฤษ และฝรั่งเศสก็ค่อยๆลดลงเช่นกัน
เป็นที่น่าสังเกตว่าสหรัฐอเมริกาไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากฝ่ายที่สนับสนุนอเมริกาในสงครามอิรักได้จัดหาทรัพยากรน้ำมันจำนวนมากให้กับสหรัฐอเมริกา เศรษฐกิจภายในประเทศของสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นแทนที่จะลดลง และสร้างความมั่งคั่งในสงคราม วิกฤตการณ์น้ำมันครั้งที่สามเกิดขึ้นในปี 2533 เมื่ออิรักอยู่ภายใต้การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ โดยองค์การเศรษฐกิจโลก ทำให้ราคาน้ำมันกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง
ในเวลานี้เองที่ในที่สุดองค์การพลังงานโลก ก็เข้ามามีบทบาทกับการจัดหาพลังงานของประเทศอื่นๆ และในที่สุดราคาก็ทรงตัวที่ 1.5 เท่าของราคาเดิม จากวิกฤตการณ์ด้านพลังงานทั้ง 3 ประการนี้ ทำให้เห็นความสำคัญของการสำรองน้ำมันต่อประเทศได้ไม่ยาก อันดับน้ำมันสำรองของจีนมีประมาณ 850,000 ตัน ซึ่งสามารถตอบสนองการผลิตทางอุตสาหกรรมของประเทศของเรา และการใช้ประจำวันประมาณ 40 วัน
อีกทั้งประเทศของเรามีที่ดินกว้างใหญ่มีทรัพยากรมากมาย และยังมีแหล่งน้ำมันอยู่ใต้ดินหากเกิดวิกฤตพลังงาน อีกประเทศของเราคงอยู่ได้ยาวนานแน่นอนด้วยการพึ่งตนเอง ทรัพยากรน้ำมัน ญี่ปุ่นมีน้ำมันสำรอง 80 ล้านตัน ทำไมน้ำมันสำรองสูงจัง เหตุผลก็คือแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะมีขนาดที่เล็ก แต่ได้พัฒนาการผลิตเชิงอุตสาหกรรมซึ่งต้องใช้น้ำมันจำนวนมาก
ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่า โดยพื้นฐานแล้วไม่มีทรัพยากรที่สามารถหาประโยชน์ได้ในญี่ปุ่น เมื่อประเทศขาดแคลนน้ำมัน ประเทศต่างๆจึงสามารถพึ่งพาเงินสำรองของตน เพื่อรักษาการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้เท่านั้น ดังนั้นญี่ปุ่นจึงใช้จ่ายน้ำมันสำรองมากขึ้น อาจกล่าวได้ว่ายิ่งมากยิ่งดี ไม่น่าเชื่อว่าสหรัฐอเมริกาซึ่งเชื่อมโยงกับเปโตรดอลล่าร์ ในระบบมีน้ำมันสำรองเพียง 90 ล้านตัน
ทั้งนี้เพราะสหรัฐอเมริกาไม่กลัวน้ำมันหมด และเศรษฐกิจโลกทุกวันนี้ ก็มุ่งไปที่สหรัฐอเมริกาเป็นหลักหากราคาน้ำมันในตลาดต่างประเทศพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง สหรัฐอเมริกายังมีโอกาสที่จะกลับมา วิธีสุดท้ายคือการพิมพ์เงินดอลลาร์ให้มากขึ้น ซึ่งเร็วกว่าอัตราเงินเฟ้อโลก และซื้อทรัพยากรน้ำมันได้ในราคาต่ำ โดยทั่วไปแล้วสหรัฐอเมริกาจะไม่นำแนวทางนี้มาใช้ เพราะจะนำไปสู่การล่มสลายของระบบเงินดอลลาร์และเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ยังมีองค์กรพลังงานที่อยู่เบื้องหลังสหรัฐอเมริกา ซึ่งสามารถจัดหาปริมาณการใช้น้ำมันของสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาหลายปี ประเทศต่างๆทั่วโลกอาจไม่มีน้ำมัน แต่สหรัฐอเมริการไม่มี ดังนั้นไม่มีอะไรต้องกลัวไม่ว่าจะเป็นจีน สหรัฐอเมริกา หรือญี่ปุ่น ปริมาณสำรองน้ำมันของพวกเขาก็ไม่น่าประทับใจ เมื่อเทียบกับประเทศชั้นนำของโลก
ประเทศที่มีน้ำมันสำรองมากที่สุดในโลกคือเวเนซุเอลา ประกอบด้วยน้ำมันประมาณ 300 พันล้านบาร์เรล เท่ากับ 41.1 พันล้านตัน เหตุผลหลักคือเป็นประเทศต้นทางของน้ำมันและแหล่งน้ำมันในท้องถิ่นก็อุดมสมบูรณ์ ถ้าไม่มีสงคราม คนก็รวยได้โดยอาศัยน้ำมันเพียงอย่างเดียว ซาอุดีอาระเบียมีปริมาณสำรองมากเป็นอันดับสองที่ประมาณ 266 พันล้านบาร์เรล ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ เช่น เวเนซุเอลา น่าเสียดายที่ไม่ได้ผลิตน้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพอย่างที่เคยเป็นมา
4 ใน 5 ของประเทศที่ผลิตน้ำมันในเอเชีย และมีเพียงประเทศเดียวที่เป็นของสหรัฐอเมริกา แคนาดาซึ่งมีปริมาณน้ำมันมากเป็นอันดับสามของโลก มีปริมาณสำรองมากถึง 169.7 พันล้านบาร์เรลอย่างน่าประหลาดใจ จากข้อมูลการสำรวจทรัพยากร แคนาดามีทรัพยากรน้ำมันมากมาย โดยมีปริมาณน้ำมันประมาณ 5.6 ล้านบาร์เรลต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับปริมาณน้ำมันทั้งหมดของโลกในช่วงทศวรรษ 1980
นอกจากนี้ การผลิตน้ำมันของแคนาดาเพิ่มขึ้นทุกปี แต่เศรษฐกิจของประเทศค่อนข้างพัฒนา ปริมาณการส่งออกน้ำมันไม่ใหญ่เท่ากับของตะวันออกกลาง และน้ำมันที่สกัดได้ส่วนใหญ่มีไว้ใช้เองหรือเป็นสำรองของประเทศ ในบรรดาน้ำมันสำรอง 10 อันดับแรกของโลก ยังมีอีกประเทศที่ทุกคนคุ้นเคย นั่นก็คือรัสเซียมีดินแดนกว้างใหญ่และทรัพยากรน้ำมันที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากสินค้านำเข้าจากต่างประเทศแล้ว รัสเซียยังกลายเป็นประเทศที่มีน้ำมันสำรองมากเป็นอันดับแปดของโลกอีกด้วย มีปริมาณสำรองประมาณ 80 พันล้านบาร์เรล ทรัพยากรน้ำมันมีค่ามากและควรใช้ด้วยความระมัดระวัง จัดเก็บอย่างมีประสิทธิภาพและรู้วิธีใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
บทความที่น่าสนใจ : การสั่นสุนัข การทำความเข้าใจเกี่ยวกับว่าทำไมสุนัขของคุณถึงสั่น